![BreastCancerLogo](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/BreastCancerLogo.png?resize=386%2C345&ssl=1)
โครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่
![DoctorHearingTool](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/DoctorHearingTool.png?resize=424%2C922&ssl=1)
ปัจจุบัน มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็ง ที่พบมากที่สุด
และเป็นสาเหตุการเสียชีวิต อันดับแรกๆ ของสตรีไทย ในปี 2553
พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ 13,184 ราย และเสียชีวิตประมาณ 4,665 ราย หรือ
ทุก 2 ชั่วโมง จะพบสตรีไทยเสียชีวิต ด้วยมะเร็งเต้านม 1 คน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมาพบแพทย์ในระยะหลัง ๆ ซึ่งจะมีการลุกลามและแพร่กระจายไปแล้ว ประมาณ ร้อยละ 56
ปัจจัยเสี่ยง
ต่อการเกิด
มะเร็งเต้านม
- อายุ
- ประวัติดรอบครัว (พันธุกรรม และยืน)
- ประวัติส่วนตัว (ฮอร์โมน, การมีบุตร)
- พฤติกรรมการดำเนินชีวิต (อาหาร, น้ำหนักกาย, แอลกอฮอล์)
- การได้รับรังสีรักษา
อายุ
- หญิง อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
ประวัติครอบครัว
- แม่ พี่สาว หรือน้องสาวเป็นมะเร็งเต้านม หรือ มะเร็งรังไข่ (โดยเฉพาะถ้าพบเป็นมะเร็งก่อน วัยหมดประจำเดือนจะมีความเสี่ยงมากขึ้น)
- ตรวจพบการเปลี่ยนแปลงของยีนมะเร็งเต้านม BRCA1, BRCA2 (BRCA : BREAST CANCER คือ ยีนที่ควบคุมการเกิดมะเร็งเต้านม ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดการก่อกลายพันธุ์ จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิด มะเร็งได้)
![PersonalProfile](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/PersonalProfile.jpg?resize=820%2C507&ssl=1)
ประวัติส่วนตัว
- มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี
- เป็นโสด ไม่มีบุตร หรือมีบุตรน้อย
- หมดประจำเดือนช้าหลังอายุ 50 ปี
- มีบุตรคนแรกเมื่ออายุ 35 ปี
- ได้รับฮอร์โมนทดแทนหลังหมดประจำเดือนนานกว่า 5 ปี
- รับประทานยาคุมกำเนิดเกินกว่า 10 ปี (จากการ ศึกษายังไม่มีผลสรุปที่ชัดเจน) ปัจจัยเสี่ยงข้างต้น จะมีผลกระทบต่อฮอร์โมน เอสโตรเจนในร่างกาย และพบว่าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงมีส่วน เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งเต้านม
- เป็นโรคเกี่ยวกับเต้านม ได้แก่
-
- เป็นมะเร็งเต้านมข้างหนึ่งแล้ว
- เคยเป็นโรคที่เต้านม เช่น ซีสต์ (cyst) ที่มีการแบ่งตัวของเยื่อบุมากขึ้น
พฤติกรรมการดำเนินชีวิต
- รับประทานอาหารประเภทไขมันสัตว์สูง
- ดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ (จากการศึกษาพบว่าแอลกอฮอล์ทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเลือดสูงขึ้น)
- หญิงที่มีน้ำหนักมวลกายมาก (Obesity) มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักมวลกาย ปกติ
- ออกกำลังกายน้อยกว่าวันละ 30-60 นาที
การได้รับรังสีรักษา
ได้รับการฉายรังสี บริเวณหน้าอก ก่อนอายุ 30 ปี โดยเฉพาะผู้ได้รับการ ฉายรังสีรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Hodgkin’s disease)
![WomanRunning](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/WomanRunning.png?resize=690%2C690&ssl=1)
การป้องกัน
มะเร็งเต้านม
การปัองกันมะเร็งเต้านม
การป้องกันมะเร็งเต้านม คือ ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ รับประทานผักและผลไม้มากขึ้น ลดอาหารไขมัน และการป้องกันที่ดีที่สุด คือ การตรวจ พบให้เร็วที่สุด ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งทกำได้ 2 วิธี คือ
1. การตรวจเต้านมด้วยตนเองซึ่งสามารถคลำพบก้อน ที่โตประมาณ 1 ซม. ขึ้นไปได้ หากตรวจพบในระยะ 2-5 ซม. อัตราการรอดชีวิตมีถึงร้อยละ 90-75 หากคลำพบก้อนขนาด 5 ซม. ขึ้นไป อัตราการ อยู่รอดมีเพียงร้อยละ 30-15 เท่านั้น
2. การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) จะสามารถพบก้อนได้ตั้งแต่ขนาด 3 – 5 มม. ขึ้นไป หากพบในระยะนี้การรักษาจะหายเกือบ 100% เพราะมะเร็งมีขนาดเล็กมากยังไม่แพร่กระจายไปที่ อวัยวะอื่นๆ แต่การเอกซเรย์เต้านมนั้นไม่อยู่ใน สิทธิประโยชน์ตามหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ
วิธีการตรวจเต้านมด้วยตัวเอง
1. ดูการเปลี่ยนแปลงในกระจกเงา ในขณะที่แขนทั้ง 2 ข้าง
- แนบลำตัว
- ยกขึ้น
- เท้าเอว
ดูการเปลี่ยนแปลง
- ขนาด, สีของผิวหนัง
- รอยบุ๋มของผิวหนังและที่หัวนม
2. คลำบริเวณเต้านม ในท่ายืนหรือนอน
- ยกมือขวาไว้ด้านหลังของศีรษะ
- ใช้มือซ้ายตรวจเต้านมขวาโดย แบมือออก
- ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง กดลงบนเต้านมเบาๆ กดแรงขึ้น และ กดหนักเพิ่มขึ้นเป็น 3 ระดับ ให้ทั่วเต้านม และ รักแร้ เพื่อค้นหาก้อนหรือความหนาที่ผิดปกติ ของเต้านมโดยวนเป็นวงกลมเล็กๆ ไปรอบๆ จนถึงหัวนม
3. บีบที่หัวนม
โดยค่อยๆ บีบเบาๆ เพื่อตรวจดูว่ามีนำเหลือง หรือ เลือดออกมาหรือไม่
![BreastCheck-1](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/BreastCheck-1.png?resize=336%2C336&ssl=1)
![BreastCheck-1.1](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/BreastCheck-1.1.png?resize=352%2C352&ssl=1)
2. คลำบริเวณเต้านม ในท่ายืนหรือนอน
- ยกมือขวาไว้ด้านหลังของศีรษะ
- ใช้มือซ้ายตรวจเต้านมขวาโดย แบมือออก
- ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง กดลงบนเต้านมเบาๆ กดแรงขึ้น และ กดหนักเพิ่มขึ้นเป็น 3 ระดับ ให้ทั่วเต้านม และ รักแร้ เพื่อค้นหาก้อนหรือความหนาที่ผิดปกติ ของเต้านมโดยวนเป็นวงกลมเล็กๆ ไปรอบๆ จนถึงหัวนม
3. บีบที่หัวนม
โดยค่อยๆ บีบเบาๆ เพื่อตรวจดูว่ามีนำเหลือง หรือ เลือดออกมาหรือไม่
![BreastCheck-2](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/BreastCheck-2.png?resize=359%2C352&ssl=1)
![BreastCheck-3](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/BreastCheck-3.png?resize=360%2C360&ssl=1)
![WomanBreastTest](https://i0.wp.com/www.kanjanabaramee.org/wp-content/uploads/2021/08/WomanBreastTest.png?resize=1080%2C1222&ssl=1)
สิ่งผิดปกติบริเวณเต้านมที่ควรรีบปรึกษาแพทย์
1. คลำพบก้อน ตุ่ม หรือขึ้นแข็ง
2. มีอาการบวม แดง ร้อน หรือเต้านมมีสีผิวคล้ำขึ้น
3. มีการเปลี่ยนแปลงของขนาดและรูปร่าง
4. มีการเปลี่ยนแปลงบริเวณผิวหนังเต้านม เช่น ผิวหนังหยาบ มีรอยบุ๋ม รอยนูน และย่น
5. หัวนมมีลักษณะดึงรั้ง หรือลอกเป็นเกล็ด หรือ มีอาการค้น
6. มีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลจากหัวนม